1.สภาพแวดล้อม
- ที่อยู่อาศัย: ลูกเต่าควรมีที่อยู่อาศัยที่กว้างขวางเพื่อให้มีพื้นที่ในการเคลื่อนไหว แนะนำให้ใช้ตู้หรือกล่องขนาดใหญ่ที่มีฝาปิดเพื่อป้องกันไม่ให้เต่าหนี
- พื้นผิว: ใช้วัสดุที่ปลอดภัย เช่น ดินปลูกต้นไม้ ทราย หรือฟาง เพื่อให้เต่าสามารถขุดและฝังตัวได้
- แสงแดด: เต่าซูคาต้าต้องการแสงแดดเพื่อรับวิตามิน D3 แนะนำให้มีการติดตั้งหลอดไฟ UVB ในที่อยู่อาศัยและควรนำเต่าออกมาอาบแดดบ้างในช่วงเช้า
2.อาหาร
- ผักและหญ้า: อาหารหลักของเต่าคือผักใบเขียว เช่น ใบยอ ใบหม่อน และหญ้าแพงโกล่า หญ้าทิมโมธี หญ้าอัลฟาฟ่า
- อาหารเสริม: ให้แคลเซียมเสริมเพื่อช่วยในการเจริญเติบโตของกระดอง และหลีกเลี่ยงการให้อาหารที่มีโปรตีนสูง
3.น้ำและความชื้น
- น้ำดื่ม: เต่าต้องการน้ำสะอาดในการดื่มและอาบ ควรมีภาชนะใส่น้ำที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย
- ความชื้น: เต่าซูคาต้าต้องการความชื้นในระดับปานกลาง ควรรักษาความชื้นในที่อยู่อาศัยโดยการพ่นน้ำเป็นระยะ
4.การดูแลสุขภาพ
- ตรวจสอบสุขภาพ: ตรวจสอบเต่าเป็นประจำว่ามีอาการผิดปกติหรือไม่ เช่น การกินไม่ปกติ อาการซึม หรืออาการผิวแห้ง
- การอาบน้ำ: ควรอาบน้ำให้เต่าเป็นระยะเพื่อให้ผิวหนังชุ่มชื้นและสะอาด
5.ความอบอุ่น
- การควบคุมอุณหภูมิ: เต่าซูคาต้าต้องการอุณหภูมิที่อบอุ่น ควรมีการติดตั้งหลอดไฟให้ความร้อนในที่อยู่อาศัย และควรมีพื้นที่เย็นให้เต่าสามารถย้ายไปพักได้ตามต้องการ
6.การฝึกและการเข้าสังคม
- การฝึกเต่า: ลูกเต่าซูคาต้าสามารถฝึกให้เชื่องได้โดยการสัมผัสและให้อาหารด้วยมือ แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวัง
- การเข้าสังคม: เต่าซูคาต้ามักจะเป็นมิตรและสามารถอยู่ร่วมกับเต่าตัวอื่นได้ แต่ควรระวังไม่ให้มีการทะเลาะกัน