เต่าซูลคาต้า ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแรง ทนทาน อายุยืนยาว แต่ใช่ว่าจะไม่มีวันป่วยเลย สังเกตอาการเต่า รู้ทันโรค และรักษาได้ทัน
สังเกตอาการเต่าอย่างไรว่าป่วย?
- ไม่กินอาหาร: เต่าซูลคาต้าปกติจะมีความอยากอาหารสูง การไม่กินอาหารติดต่อกัน 2-3 วัน เป็นสัญญาณเตือนแรกๆ ว่าอาจป่วย
- ซึม: เต่าจะนอนนิ่ง ไม่ค่อยเคลื่อนไหว ไม่สนใจสิ่งรอบข้าง
- มีน้ำมูก: สังเกตจากจมูกของเต่า ว่ามีน้ำมูกไหลออกมาหรือไม่
- หายใจลำบาก: สังเกตจากเสียงหายใจของเต่า ว่าดังผิดปกติ หรือหายใจเร็วกว่าปกติ
- ตาขุ่น: สังเกตจากตากลมๆ ของเต่า ว่ามีขุ่นมัว หรือมีแผลอักเสบ
- อ่อนเพลีย: เต่าจะดูอ่อนแรง ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง
- กระดองอ่อน: กดเบาๆ บนกระดองเต่า ปกติจะแข็งแรง แต่ถ้าอ่อนนิ่ม แสดงว่าอาจขาดแคลเซียม หรือป่วยเป็นโรคกระดองอ่อน
- ท้องอืด: สังเกตจากท้องเต่า ว่าดูบวม เต่าอาจไม่ถ่ายอุจจาระ
โรคที่พบบ่อยในเต่าซูลคาต้า
- โรคหวัด: มักเกิดจากอากาศเย็น หรือความชื้นสูง สังเกตจากอาการน้ำมูกไหล ตาขุ่น หายใจลำบาก
- โรคระบบทางเดินอาหาร: มักเกิดจากอาหารที่ไม่สะอาด หรือติดเชื้อแบคทีเรีย สังเกตจากอาการไม่กินอาหาร ท้องเสีย อ่อนเพลีย
- โรคกระดองอ่อน: มักเกิดจากขาดแคลเซียม สังเกตจากกระดองอ่อนนิ่ม
- โรคตา: มักเกิดจากติดเชื้อแบคทีเรีย หรือวิตามินเอขาด สังเกตจากตาขุ่น มีแผลอักเสบ
- โรคระบบสืบพันธุ์: มักพบในเต่าเพศเมีย สังเกตจากอาการเบื่ออาหาร อ่อนเพลีย
การรักษา
หากสงสัยว่าเต่าป่วย ควรนำเต่าไปพบสัตวแพทย์โดยเร็วที่สุด การวินิจฉัยและรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค
การป้องกัน
- ดูแลเรื่องอาหาร: ให้เต่ากินอาหารที่สะอาด สด ใหม่ และมีคุณค่าทางโภชนาการครบถ้วน
- ดูแลเรื่องที่อยู่อาศัย: ให้เต่ามีพื้นที่กว้างขวาง อากาศถ่ายเทสะดวก อุณหภูมิและความชื้นเหมาะสม
- พาเต่าไปตากแดด: แสงแดดช่วยฆ่าเชื้อโรคและกระตุ้นการสร้างวิตามินดี
- รักษาความสะอาด: ทำความสะอาดที่อยู่อาศัยของเต่าเป็นประจำ
- พาเต่าไปตรวจสุขภาพ: ควรพาเต่าไปตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นประจำ