เต่าซูคาต้าเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ด้วยความน่ารัก ขี้อ้อน และอายุยืนยาว แต่การเลี้ยงเต่าซูคาต้านั้น จำเป็นต้องมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรมและโภชนาการของเต่าเป็นอย่างดี เพราะการให้อาหารที่ไม่เหมาะสม จะส่งผลต่อสุขภาพของเต่าซูคาต้าได้อย่างร้ายแรง
ผลกระทบของการให้อาหารไม่เหมาะสมต่อสุขภาพของเต่าซูคาต้า
-
โรคกระดูกอ่อน: เต่าซูคาต้าต้องการแคลเซียมและฟอสฟอรัสในปริมาณที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของกระดูก หากได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ จะส่งผลต่อพัฒนาการของกระดูก ทำให้กระดองอ่อนแอ เปราะบาง งอ หรือผิดรูปได้
-
โรคระบบทางเดินอาหาร: อาหารบางชนิด เช่น เนื้อสัตว์ ผลไม้หวาน อาหารแปรรูป อาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารของเต่าซูคาต้า ทำให้เกิดอาการท้องเสีย อาหารไม่ย่อย คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร หรือท้องผูก
-
นิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะ: อาหารที่มีปริมาณออกซาลิกสูง เช่น ผักโขม ชะอม บร็อคโคลี่ เมื่อสะสมในร่างกายเต่าเป็นเวลานาน จะจับตัวกับแคลเซียมกลายเป็นนิ่วในไตและกระเพาะปัสสาวะ
-
โรคตับ: อาหารที่มีไขมันสูง เช่น อาหารกึ่งสำเร็จรูป อาหารทอด อาจส่งผลต่อตับของเต่าซูคาต้า ทำให้เกิดภาวะตับอักเสบ ไขมันพอกตับ หรือตับวายเรื้อรัง
-
โรคติดเชื้อ: อาหารสดที่ปนเปื้อนแบคทีเรีย เช่น เนื้อสัตว์ดิบ ผักผลไม้ที่ไม่ได้ล้างให้สะอาด อาจทำให้เต่าซูคาต้าป่วยเป็นโรคติดเชื้อระบบทางเดินอาหาร
แนวทางการให้อาหารเต่าซูคาต้าที่เหมาะสม
-
เลือกอาหารชนิดเม็ด ที่ผลิตมาโดยเฉพาะสำหรับเต่าซูคาต้า อาหารเหล่านี้มีสารอาหารครบถ้วน เหมาะสมกับความต้องการของเต่า
-
เสริมด้วยผักสด หลากหลายชนิด เช่น หญ้าแห้ง ใบตำลึง ผักกาดหอม แครอท ล้างให้สะอาดก่อนนำให้เต่ากิน
-
ให้ผลไม้เป็นรางวัล บ้างในปริมาณที่พอเหมาะ เช่น แอปเปิ้ล กล้วย สตรอเบอร์รี่
-
โรยแคลเซียมผง บนอาหารทุกมื้อ เพื่อเสริมแคลเซียมที่เต่าต้องการ
-
ให้น้ำสะอาด อยู่เสมอ เปลี่ยนน้ำทุกวัน
-
สังเกตสุขภาพของเต่า อยู่เสมอ หากพบอาการผิดปกติ ควรปรึกษาสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
สรุป
การให้อาหารที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อสุขภาพของเต่าซูคาต้า เจ้าของเต่าควรศึกษาข้อมูล เลือกอาหารที่มีคุณภาพ และให้อาหารในปริมาณที่เหมาะสมกับวัยและขนาดของเต่า การสังเกตสุขภาพของเต่าอยู่เสมอ จะช่วยให้พบปัญหาและรักษาได้ทันท่วงที