เต่าซูคาต้า เป็นเต่าบกที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก รองจากเต่ายักษ์กาลาปากอสและเต่ายักษ์อัลดาบรา นิยมเลี้ยงกันเป็นสัตว์เลี้ยงทั่วไป เต่าซูคาต้ามีหลายสายพันธุ์ แต่สายพันธุ์ไหนราคาแพงที่สุด?
ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาเต่าซูคาต้า
- ขนาด: โดยทั่วไป เต่าซูคาต้าที่มีขนาดใหญ่จะราคาแพงกว่า เพราะเต่าเหล่านี้โตเต็มที่แล้ว หายาก และมีอายุยืนยาวกว่า
- ลายกระดอง: เต่าซูคาต้าที่มีลายกระดองสวยงาม หายาก หรือตรงกับความเชื่อบางประเภท จะมีราคาแพงกว่า
- เพศ: เต่าซูคาต้าเพศผู้มักมีราคาแพงกว่าเพศเมีย เพราะหายากกว่า
- แหล่งที่มา: เต่าซูคาต้าที่มาจากแหล่งที่หายาก หรือฟาร์มที่มีชื่อเสียง มักมีราคาแพงกว่า
- สุขภาพ: เต่าซูคาต้าที่มีสุขภาพแข็งแรง สมบูรณ์ ไม่มีโรค จะมีราคาแพงกว่า
สายพันธุ์เต่าซูคาต้าที่ราคาแพง: เต่าซูคาต้ามีหลายสายพันธุ์ แต่ละสายพันธุ์มีลวดลายและสีสันที่แตกต่างกัน
-
- เต่าซูคาต้าลายโมเสก (Mosaic Sulcata Tortoise): เต่าสายพันธุ์นี้มีลายกระดองคล้ายโมเสค สวยงาม แปลกตา พบได้น้อย จึงมีราคาแพง เต่าซูคาต้าลายโมเสคตัวเต็มวัย อาจมีราคาสูงถึงหลายหมื่นบาท
- เต่าซูคาต้าอัลบิโน (Albino Sulcata Tortoise): เต่าซูคาต้าสายพันธุ์นี้มีสีผิวและกระดองสีขาว หายากมาก และมีราคาแพงที่สุด
- เต่าซูคาต้าลายเรเดียล (Radial Sulcata Tortoise): เต่าซูคาต้าสายพันธุ์นี้มีลายกระดองคล้ายกับเส้นรัศมี หายาก และมีราคาแพง
- เต่าซูคาต้าลายดาว (Star Sulcata Tortoise): เต่าสายพันธุ์นี้มีลายกระดองคล้ายดาว สวยงาม แปลกตา พบได้น้อย จึงมีราคาแพง เต่าซูคาต้าลายดาวตัวเต็มวัย อาจมีราคาสูงถึงหลายหมื่นบาท
- เต่าซูคาต้าเผือก: เป็นสายพันธุ์ที่มีสีขาวทั้งตัว พบได้น้อย มีราคาสูง
- เต่าซูคาต้าสายพันธุ์บริสุทธิ์: เป็นเต่าที่มีสายเลือดบริสุทธิ์ 100% มักมีราคาสูง
ราคาเต่าซูคาต้า
ราคาเต่าซูคาต้าในประเทศไทย เริ่มต้นที่ตัวละ 3,500 บาท ไปจนถึง หลักแสนบาท ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ